สาวๆ หลายคนอาจยังไม่รู้ ว่านิสัยบางอย่างของตัวเอง อาจทำให้คุณผู้ชายรู้สึกอึดอัดหรือเบื่อหน่ายจนถึงขั้นอยากถอยห่าง ซึ่งบางครั้งมันก็ไม่ได้เป็นสิ่งที่ผิด แต่หากทำบ่อย ๆ อาจทำให้หนุ่มๆไม่สบายใจ จนความสัมพันธ์จบลงโดยไม่รู้ตัวก็ได้ มาดูกันว่า 5 นิสัยของสาว ๆ ที่ผู้ชายไม่ชอบ มีอะไรบ้าง
1. ขี้ระแวงเกินไป
การแสดงความห่วงใยในความสัมพันธ์เป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าความห่วงใยนั้นมากเกินไปจนกลายเป็น “ความระแวง” อาจทำให้อีกฝ่ายรู้สึกอึดอัดและขาดอิสระได้ หลายคนอาจคิดว่า การเช็กโทรศัพท์ ถามซ้ำ ๆ ว่าอยู่ที่ไหน ทำอะไร หรือคอยจับผิดทุกการกระทำ เป็นเพียงการแสดงออกถึงความรักและความใส่ใจ แต่สำหรับฝ่ายชายแล้ว สิ่งเหล่านี้อาจกลายเป็นภาระทางอารมณ์ที่ทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกควบคุมอยู่ตลอดเวลา ความระแวงที่ไม่มีเหตุผลหรือการคิดไปเองว่าเขานอกใจ ทั้งที่ไม่มีหลักฐาน อาจสร้างความกดดันให้กับอีกฝ่าย และทำให้ความสัมพันธ์ค่อย ๆ ตึงเครียดขึ้นโดยไม่รู้ตัว
2. งอนเกินเหตุ เอาแต่ใจโดยไม่สนเหตุผล
การงอนเป็นเรื่องธรรมดาในความสัมพันธ์ เพราะมันมักเกิดจากความรู้สึกน้อยใจ ต้องการให้แฟนใส่ใจ หรืออยากให้เขารับรู้ว่าเรารู้สึกอย่างไร แต่ถ้าการงอนเกิดขึ้นบ่อยจนกลายเป็นนิสัย และที่แย่กว่านั้นคือ การงอนโดยไม่มีเหตุผลชัดเจน หรือไม่ยอมบอกว่าต้องการอะไรให้เขาเข้าใจ สิ่งเหล่านี้อาจทำให้ผู้ชายรู้สึกเหนื่อยและหมดกำลังใจในการง้อได้
หลายครั้งที่ผู้หญิงงอนแล้วเลือกที่จะเงียบ ไม่ยอมพูด หรือทำตัวเย็นชาโดยหวังให้แฟนเป็นฝ่ายเดาเองว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งสำหรับผู้ชาย บางครั้งพวกเขาอาจไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าทำอะไรผิด และเมื่อเดาไม่ออกหรือพยายามง้อแล้วไม่ได้ผล สุดท้ายพวกเขาอาจเลือกที่จะถอยห่างออกมา เพราะรู้สึกว่าไม่ว่าจะทำอะไรก็ไม่ถูกใจอยู่ดี นอกจากนี้ การเอาแต่ใจมากเกินไป หรือคาดหวังให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่ตัวเองต้องการ โดยไม่คำนึงถึงความรู้สึกของอีกฝ่าย อาจทำให้ความสัมพันธ์กลายเป็นภาระทางอารมณ์ที่หนักหนาสำหรับผู้ชายได้
3. เปรียบเทียบแฟนกับคนอื่น
ไม่มีใครชอบถูกเปรียบเทียบ โดยเฉพาะกับคนอื่นที่ถูกยกขึ้นมาเป็นมาตรฐานที่ต้องทำให้ได้ การที่สาวๆ ชอบพูดว่า “ดูสิ แฟนคนอื่นยังทำแบบนี้ให้เลย” หรือ “ทำไมเธอไม่เป็นเหมือนคนนั้น” อาจฟังดูเป็นคำพูดธรรมดาสำหรับผู้พูด แต่สำหรับฝ่ายชายแล้ว มันอาจเป็นคำที่ทำให้รู้สึกหมดกำลังใจ และเกิดความรู้สึกว่า ตัวเองไม่ดีพอ
ผู้ชายส่วนใหญ่อาจไม่ค่อยแสดงออกให้เห็นว่าพวกเขาเสียความมั่นใจ แต่ลึก ๆ แล้ว คำพูดเปรียบเทียบเหล่านี้สามารถทำให้พวกเขารู้สึกกดดัน หรือมองว่าต่อให้ทำดีแค่ไหน ก็ยังไม่เป็นที่พอใจอยู่ดี และเมื่อความรู้สึกแบบนี้สะสมไปเรื่อย ๆ ก็อาจทำให้เขาหมดแรงที่จะพยายามในความสัมพันธ์ และเลือกที่จะถอยห่างออกไปในที่สุดนั่นเอง
4. ติดโซเชียลเกินไป จนไม่สนใจแฟน
สาวๆ ลองนึกภาพตามนะคะ ว่าถ้าคุณกับแฟนนัดไปกินข้าวด้วยกัน แต่แทนที่จะได้ใช้เวลาดี ๆ ร่วมกัน คุณกลับเอาแต่ก้มหน้าตอบแชท เช็กฟีด หรือมัวแต่ถ่ายรูปลงโซเชียล โดยไม่สนใจว่าเขานั่งอยู่ตรงนั้น ความรู้สึกของฝ่ายชายอาจเปลี่ยนจาก “ดีใจที่ได้อยู่ด้วยกัน” กลายเป็น “รู้สึกเหมือนเป็นคนที่ไม่มีตัวตน” ไปในที่สุด เพราะการกระทำแบบนี้ทำให้เขารู้สึกว่า ตัวเองไม่สำคัญ หรือเป็นเพียง “คนที่อยู่ข้าง ๆ” ไม่ใช่ “คนที่คุณให้ความสนใจจริง ๆ” ดังนั้นสาวๆ ที่มีพฤติกรรมติดโซเชียลมากเกินไป ต้องระวัง เพราะถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ ผู้ชายอาจรู้สึกเหนื่อยและเบื่อ จนสุดท้ายเขาอาจเลือกเดินออกจากความสัมพันธ์เพื่อหาคนที่ให้คุณค่ากับเขามากกว่าก็ได้
5. ชอบบ่น ดราม่า หรือมองโลกในแง่ลบตลอดเวลา
ไม่มีใครอยากอยู่ในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความเครียดหรือพลังงานลบตลอดเวลา โดยเฉพาะเมื่อความสัมพันธ์ควรเป็นพื้นที่แห่งความสบายใจ มากกว่าการเป็นสนามรบของอารมณ์ หากสาวๆ มีนิสัยชอบบ่นทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน รถติด อากาศร้อน หรือแม้แต่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตประจำวัน โดยที่ไม่มีช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มและพลังบวกเลย ผู้ชายอาจเริ่มรู้สึกเบื่อหน่ายและหมดพลังไปเรื่อย ๆ
อยากให้ผู้หญิงทั้งหลายจำไว้ว่า การพูดถึงปัญหาไม่ใช่เรื่องผิด เพราะในความสัมพันธ์ที่ดี ควรมีการพูดคุยและแชร์ความรู้สึกกันได้ แต่หากการพูดถึงปัญหานั้นมาในรูปแบบของการบ่นซ้ำ ๆ โดยไม่มีการมองหาทางแก้ หรือขุดเอาเรื่องเก่ามาพูดซ้ำแล้วซ้ำอีก มันจะทำให้บรรยากาศในความสัมพันธ์ตึงเครียด และอาจกลายเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้ชายรู้สึกเหนื่อยใจได้นะคะ
นิสัยบางอย่างอาจดูเป็นเรื่องเล็กน้อยในสายตาเรา แต่สำหรับอีกฝ่าย มันอาจเป็นสิ่งที่ทำให้ความสัมพันธ์ค่อย ๆ ห่างเหินไปโดยไม่รู้ตัว สาวๆ คนไหนที่เผลอทำพฤติกรรมเหล่านี้บ่อย ๆ ควรลองปรับตัว และลองใส่ใจความรู้สึกของแฟนให้มากขึ้น หลีกเลี่ยงนิสัยที่อาจทำให้เขาอึดอัด และหันมาเสริมสร้างความสัมพันธ์ด้วยการสื่อสารที่ดี เชื่อใจกัน และให้คุณค่ากับสิ่งที่อีกฝ่ายเป็นมากกว่าการพยายามเปลี่ยนเขาดีกว่านะคะ